เสน่ห์ลึกซึ้งที่มากกว่าความบันเทิง
โอ้โห…พูดถึง ซีรี่ย์จีน แล้วนี่มันเหมือนหลุดเข้าไปอีกจักรวาลหนึ่งเลยนะคุณ เช่นที่ series469 เคยมั้ยดูแค่ตอนแรก แล้วก็เผลออีกทีตีห้าพระอาทิตย์ขึ้นแบบงงๆ? นั่นแหละ ซีรี่ย์จีนมันมีพลังดึงดูดแปลกๆ ที่ไม่เหมือนชาติไหนเลย มันไม่ใช่แค่เรื่องราวความรักหวานเจี๊ยบหรือฉากบู๊สะบั้นหั่นแหลกนะ แต่มันคือส่วนผสมของวัฒนธรรม ความประณีตในรายละเอียด และการเล่าเรื่องที่ใส่ใจแบบไม่น่าเชื่อ อย่างแรกเลยนะ ถ้าเคยดูแนวพีเรียด อย่างพวกซีรี่ย์ย้อนยุคยุคราชวงศ์ต่างๆ จะรู้เลยว่าพวกเขาให้ใจไปกับทุกเม็ด ทั้งเสื้อผ้า ฉาก โลเคชั่น หรือแม้แต่การใช้ภาษา ตัวละครจะไม่พูดกันมั่วๆ มีจังหวะ มีความเป็นกวี จนบางครั้งนึกว่านั่งอ่านกลอนอยู่ ไม่ใช่แค่ละคร มันคือศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ อีกอย่างคือความลึกของตัวละคร ซีรี่ย์จีนไม่ได้แค่มีพระเอกหล่อ นางเอกสวยแล้วพอใจนะ แต่จะพาเราไปรู้จักความคิด ความเจ็บ ความกลัว หรือแม้กระทั่งแรงจูงใจที่คนดูอาจจะไม่เห็นในตอนแรก บางตัวละครเราเกลียดตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่พอดูไปกลับเข้าใจเขาเฉยเลย เหมือนชีวิตจริงไง คนเราไม่ได้มีมิติเดียว ซีรี่ย์จีนมันกล้าเล่าความจริงพวกนี้
และอีกจุดที่ต้องปรบมือคือการเดินเรื่อง ไม่ใช่แค่โยนปมเข้ามาแล้วจบๆ แต่เขาจะค่อยๆ ปูความสัมพันธ์ ความขัดแย้ง แล้วก็พาไปถึงจุดระเบิดที่เรารู้สึก “เออ มันสมเหตุสมผล” มันคือความพอดีระหว่างดราม่าที่ไม่เวอร์ กับความเข้มข้นที่ไม่หลับ พูดถึงเรื่องบู๊ต้องยอมรับเลยว่าใครทำฉากต่อสู้ได้เท่เท่าซีรี่ย์จีนยากมาก การเคลื่อนไหวมันไม่ใช่แค่ตีกันให้เจ็บ แต่มันเหมือนเต้นรำ มีจังหวะ มีความสวยงาม และบางทีแอบมีปรัชญาแฝงมาด้วยนะ คนหนึ่งฟาดดาบ อีกคนพูดเรื่องความว่างเปล่าของชีวิต คือดูไปขนลุกไป นี่ยังไม่นับพวกซีรี่ย์แนวพล็อตแปลกๆ เช่น พระเอกโดนย้อนเวลามาเป็นขุนนาง หรือนางเอกที่อยู่ดีๆ ก็ติดอยู่ในโลกเกม เป็นตัวร้ายที่ต้องหาทางรอดให้ได้ ซีรี่ย์จีนกล้าคิด กล้าลอง ไม่กลัวความเว่อร์ เพราะรู้ว่าถ้าเล่าดี คนดูจะอิน สิ่งที่ทำให้ซีรี่ย์จีนดูไม่เบื่อคือการที่เขากล้าเล่าเรื่องจากมุมที่ไม่ค่อยมีใครกล้า อย่างบางเรื่องพูดถึงชนชั้นต่ำที่ต้องดิ้นรนจากศูนย์ หรือความเจ็บปวดจากความคาดหวังของครอบครัว มันไม่ได้โลกสวยนะ แต่มันมีความหวังซ่อนอยู่ เป็นกำลังใจที่ดูแล้วน้ำตาไหลแต่ใจสู้ อีกข้อที่ต้องยอมเลยคือ ความใส่ใจในดนตรี ซีรี่ย์จีนจะมีเพลงประกอบที่เหมือนเวทมนตร์ ฟังแล้วจำได้ทันทีว่าซีนนี้มันเศร้า มันหวาน หรือมันเจ็บ เพลงพวกนี้ไม่ได้มาแค่ประดับฉากนะ แต่เป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์เรื่องเลย พอได้ยินก็ใจสั่นเหมือนมีอะไรติดอยู่ในอก ซีรี่ย์จีนมันมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่อื่น มันไม่ได้รีบเล่า มันใช้เวลาให้คนดูรู้จักตัวละคร เหมือนชวนเราเดินทางไปด้วยกัน ทีละก้าว ทีละคำพูด แล้วพอถึงตอนสุดท้าย มันเหมือนเราต้องลาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ที่เราไม่อยากให้เขาไปเลย นั่นแหละคือพลังของซีรี่ย์จีน มันไม่ใช่แค่เรื่อง แต่มันคือความรู้สึก ที่เราเก็บติดอยู่ในใจนานมากกว่าที่เราคิด